วันจันทร์ที่ ๒๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๗ กองทัพภาคที่ ๓ จัดการประชุมแถลงข่าวผลการควบคุมพื้นที่ปลูกฝิ่นและการตัดทำลายไร่ฝิ่น ปี ๒๕๕๗ ณ ห้องประชุมคชรัตน์ ๑ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.พิษณุโลก โดย พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ ๓ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด กองทัพภาคที่ ๓ เป็นประธาน พร้อมด้วยหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตัวแทนจากกระทรวงมหาดไทย และ สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมในการแถลงข่าวครั้งนี้ โดยการดำเนินการควบคุมพื้นที่ปลูกฝิ่นและการตัดทำลายไร่ฝิ่น เป็นการดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และในปี ๒๕๕๗ นี้ ได้มีการกำหนดพื้นที่เป้าหมายสำหรับการดำเนินงานไว้จำนวน ทั้งสิ้น ๗๖ พื้นที่เป้าหมาย โดยกองทัพภาคที่ ๓ รับผิดชอบ จำนวน ๖๕ พื้นที่เป้าหมาย ตรวจพบมีการลักลอบปลูกฝิ่นใน ๑๙ พื้นที่เป้าหมาย ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, แม่ฮ่องสอน, ตาก, กำแพงเพชร และน่าน รวมจำนวน ๒,๔๙๖ แปลง เนื้อที่ ๑,๙๘๙.๔๐ ไร่ สามารถดำเนินการตัดทำลายได้จำนวน ๒,๔๙๐ แปลง เนื้อที่ ๑,๙๗๙.๗๓ ไร่ คิดเป็นร้อยละ ๙๙.๕๑ ของพื้นที่สำรวจพบ
ถึงแม้ว่าสถานการณ์การลักลอบปลูกฝิ่นในปี ๒๕๕๗ ยังคงมีพื้นที่ลักลอบปลูกฝิ่นสูง แต่การดำเนินมาตรการในการตัดทำลายต่อพื้นที่ สามารถตัดทำลายได้ครอบคลุมทุกพื้นที่เช่นกัน จึงมีผลทำให้ฝิ่นดิบในพื้นที่มีจำนวนลดน้อยลง ส่งผลให้ราคาฝิ่นดิบมีราคาสูงขึ้นเนื่องจากพ่อค้าขายปลีกในพื้นที่กำหนดราคาขายเองได้ตามต้องการ เพราะในบางพื้นที่ เช่น อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ยังคงมีผู้เสพฝิ่นและติดฝิ่นอยู่จำนวนมาก อีกทั้งผู้ลักลอบปลูกฝิ่นได้มีการพัฒนาเทคนิคและวิธีการหลายรูปแบบ โดยการลักลอบปลูกตามแนวชายแดนและในพื้นที่ที่ห่างไกลยากลำบากมากขึ้น การปลูกหลาย ๆ รุ่นในแปลงเดียวกัน และการปลูกเป็นร่องคล้ายแปลงผัก ทำให้ยากต่อการสำรวจทางอากาศของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ปริมาณผลผลิตจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักสองประการ คือ ความชื้นในอากาศที่เกื้อกูลต่อการเจริญเติบโตของต้นฝิ่น และความเข้มข้นของการควบคุมในการตัดทำลายของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย