วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2568 นายศิริสุข ยืนหาญ รปส.2 ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติราชการ สพส. ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น
เวลา 10.00 – 13.00 น. รปส.2 พร้อมด้วย นายวีระพล ใจจันทร์ ผอ.สพส. นายพงศ์ศิริ ชื่นบาน รักษาการในตำแหน่ง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ สำนักงาน ปปส.ภ.4 นายรัฐพล ตันติอนุพงศ์ ผู้อำนวยการส่วนวิจัยและพัฒนาพืชเสพติด และเจ้าหน้าที่จาก สพส. และสำนักงาน ปปส.ภ.4 เข้ารับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานและตรวจเยี่ยมการดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกากำหนดพื้นที่ทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญจากพืชฝิ่นและพืชเห็ดขี้ควายเพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย พ.ศ. 2568 ในเขตพื้นที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น
โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวกฤติกา แดงรัตน์ รักษาการแทน ผู้อำนวยการกองบริหารงานวิจัย พร้อมด้วย คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ รักษาการแทนผู้อำนวยการศูนย์สัตว์ทดลองภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และคณาจารย์ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับพร้อมพาตรวจเยี่ยมพื้นที่ที่จะดำเนินการในระยะแรก จำนวน 2 พื้นที่ ได้แก่
1. โรงเรือนของหมวดพืชผัก สาขาวิชาพืชสวน คณะเกษตรศาสตร์ (เพาะปลูก)
2. อาคารอุทยานวิทยาศาสตร์ (สกัดสาร)
ซึ่งเป็น 2 พื้นที่ใน 5 พื้นที่ที่จะดำเนินการทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญจากพืชเห็ดขี้ควายเพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัยภายใต้พระราชกฤษฎีกาดังกล่าว
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีความพร้อมของสถานที่และการปฏิบัติตาม SOP มาตรการควบคุมอย่างเคร่งครัด ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการเริ่มเพาะปลูกเนื่องจากยังรอเชื้อเห็ดจากสำนักงาน ป.ป.ส. ที่อยู่ดำเนินการขอใช้ประโยชน์จาก สภ.บางบัวทอง ตามระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ส. ว่าด้วยการตรวจรับ การตรวจพิสูจน์ การเก็บรักษา การทำลาย การนำไปใช้ประโยชน์ และการรายงานยาเสพติด พ.ศ. 2565
นอกจากนี้ รปส.2 ยังได้รับฟังความคืบหน้าและแลกเปลี่ยนแนวคิดการดำเนินโครงการวิจัยยาบำบัดผู้ติดเมทแอมเฟตามีน ร่วมกับ
ศ. ดร.พญ.สุวรรณา อรุณพงศ์ไพศาล อาจารย์จิตอาสาประจำภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น โดยโครงการดังกล่าว
เป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ ม.เชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ (ขอนแก่นและเชียงใหม่) ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงาน ป.ป.ส. มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผล ความปลอดภัย และความคุ้มค่าของการใช้ยา
3 ชนิด ได้แก่ Mirtazapine, Bupropion และ Long-acting Methylphenidate เปรียบเทียบกับการรักษาตามปกติ (Treatment as Usual) ในการลดอันตรายจากการใช้ยาบ้าในผู้ป่วยไทย
สถานะการดำเนินงานปัจจุบัน
• อยู่ในช่วงรับอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการ (Recruitment Phase)
• ยอดผู้เข้าร่วม: เป้าหมายรวม 400 ราย ปัจจุบันรับอาสาสมัครได้ 38 ราย (คิดเป็น 9.5% ของเป้าหมาย)
แบ่งเป็น:
− รพ.ธัญญารักษ์เชียงใหม่: 7 ราย (จากเป้า 119)
− รพ.ธัญญารักษ์ขอนแก่น: 31 ราย (จากเป้า 281)
โดย รปส.2 ขอให้นำรูปแบบการใช้ยาบ้าในปัจจุบันที่มีการใช้ในปริมาณหรือจำนวนเม็ดยาต่อครั้งที่มากขึ้น (10-20 เม็ดต่อครั้ง) ร่วมพิจารณาเป็นหนึ่งปัจจัยในการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ ทั้งนี้ พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานและขอให้กำลังใจทีมวิจัยดังกล่าวและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการจะประสบความสำเร็จและเป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศไทยด้วยการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมต่อไปในอนาคต